เป็นที่ทราบกันดีว่าพืช ใบบัวบก มีสรรพคุณช่วยแก้อาการช้ำใน ส่วนสำคัญที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ ส่วนของใบและราก มีกลิ่นหอม รสขมเล็กน้อย ตำรายาสมุนไพรโบราณบอกว่าสามารถแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า แก้ร้อนใน แก้โรคความดันโลหิตสูง ในปัจจุบันมีการแปรรูปใบบัวบกเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ



การบริโภค ใบบัวบก ภายในประเทศส่วนมากมักจะนำไปรับประทานสดๆ เช่น เป็นผักจิ้มน้ำพริกหรือคั้นน้ำดื่ม ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายจากความกังวลและความเครียดได้ เนื่องจากใบบัวบกประกอบด้วยวิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 ในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายหลั่งสารกาบา (gamma-aminobutyric acid) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งในปริมาณที่มากขึ้นด้วย

แต่เนื่องจากใบบัวบกที่กินสดๆ นั้นมีความขม เฝื่อน ทำให้รับประทานได้ยาก และมีอายุการเก็บรักษาที่น้อย
ซึ่งทางเลือกอื่นในการรับประทานใบบัวบกคือ การอบด้วยลมร้อน นำไปผลิตเป็นชาใบบัวบก
เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน และยังคงคุณประโยชน์และสรรพคุณยังคงเหมือนเดิม
 

ประโยชน์ของใบบัวบก สามารถช่วยแก้อาการฟกช้ำได้จริง และยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง
และที่สำคัญผลงานการวิจัยทางการแพทย์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับใบบัวบก ยังมีสารบางอย่างที่ช่วยบำรุงผิวของคุณให้สวยใสได้อีกด้วย

บัวบก เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กที่ขึ้นบนดิน มีลักษณะใบคล้ายกับใบบัว เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และแทบทุกคนรู้จักพืชชนิดนี้เป็นอย่างดี คนไทยบริโภคพืชชนิดนี้กันมาช้านานแล้ว ใบบัวบก มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีว่า "น้ำใบบัวบก" ช่วยแก้ช้ำใน รสและสรรพคุณยาไทย จะมีกลิ่นหอม รสขมเล็กน้อย โบราณว่าแก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า แก้ร้อนใน แก้โรคความดันโลหิตสูง

บัวบก มีประวัติการใช้ประโยชน์ในทางยากันมาอย่างยาวนานกันทั่วโลก ในประเทศแถบยุโรปบางพื้นที่ถึงขั้นเรียกพืชบัวบกชนิดนี้ว่า Magic Herbs กันเลยทีเดียว

สรรพคุณใบบัวบก

+ ช่วยให้ความจำดี บำรุงสมอง ลดความอ่อนล้าของสมอง

+ ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ แก้ช้ำใน ร้อนในกระหายน้ำ

+ แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น

+ แก้โรคความดันโลหิตสูง ลดรอยเหี่ยวย่นผิวหนัง และเป็นยาอายุวัฒนะ

+ รักษาแผล สมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียและลดอาการอักเสบ 

+ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้ออกซิเจนในร่างกายไหลเวียนดี ลดความเสี่ยงของการมีเส้นประสาทเสื่อม เหน็บชา อาการอ่อนแรงในผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง

**การกินบัวบกจะต้องพิจารณาพื้นฐานร่างกายด้วย อย่าพิจารณาแต่สรรพคุณของบัวบกเพียงอย่างเดียว**

ใครบ้างที่ควรรับประทาน ใบบัวบก เป็นพิเศษ
* ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคความจำเสื่อม ผู้สูงอายุหรือสตรีวัยทอง
* ผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ต้องใช้สมองอย่างมาก
* ผู้ที่มีความเครียดสูงจากการทำงานหนัก
* ผู้ที่มีความผิดปกติทางผิวหนัง กล้ามเนื้อฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบ หรือผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดมา

ข้อควรระวังในการทาน ใบบัวบก คือ
1. คนที่มีอาการม้ามเย็น ระบบย่อยอาหารไม่ดี หรือมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ ไม่ควรทานมาก
2. ผู้ป่วยที่ได้รับยาเบาหวาน หรือยารักษาคอเลสเตอรอลอยู่ ไม่ควรกินเพราะจะทำให้ผลของยาลดลง
3. บัวบกมีฤทธิ์เป็นยาเย็น คนท้องหรือหญิงที่ให้นมบุตรก็ยังไม่ควรทานเช่นกัน